วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

แมวจี้

การ์ตูนแมวน้อยเรื่องนี้ นักเขียนเป็นผู้หญิงชื่อ โคนามิ คานาตะ 
โคนามิ เกิดวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2501 ที่จังหวัดนางาโนะ ภาคกลางของประเทศ และเรียนที่สถาบันฟุบาตะ-โกโตะ เมืองสึวะ ในจังหวัดบ้านเกิด
 
เริ่มมีผลงานเขียนหนังสือการ์ตูน หรือ มังงะ ในฐานะมืออาชีพเมื่อปี 2525 เรื่องแมวน้อย Petit Cat Jam-Jam (Puchineko Jamjam) ตีพิมพ์ในนิตยสารนากาโยชิ มังงะ สำนักพิมพ์โคดันฉะ จากนั้นมาโคนามิก็มีผลงาน ต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องแมวเหมียวและ สัตว์เลี้ยงอื่นๆ
ในกลุ่มแฟนๆ การ์ตูนประเภทสัตว์เลี้ยงน่ารักชื่นชมโคนามิว่า เข้าใจจิตวิทยาแมวอย่างยิ่ง ผลงานที่ออกมาสะท้อนว่านักเขียนหญิงท่านนี้ช่างสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี
สำหรับผลงานแมวจี้ Chi"s Sweet Home ตีพิมพ์ในนิตยสารวีกลี่ มอร์นิ่ง สำนักพิมพ์โคดันฉะ ตั้งแต่ปี 2547 ต่อมาออกใบอนุญาตให้บริษัทเวอร์ติคัล อิงก์ จัดจำหน่ายในอเมริกาเหนือ โดยแปลเป็นภาษาอังกฤษ และปรับหน้ากระดาษให้อ่านจากซ้ายไปขวา เริ่มตั้งแต่ปี 2553
 
  ความน่ารักของเจ้าลูกแมวตาโตขี้อ้อนตัวนี้ทำให้มันเป็นขวัญใจผู้อ่านในเวลาอันรวดเร็ว จนติดอันดับหนังสือขายดีของนิวยอร์กไทมส์
จี้ ตัวละครเอกของเรื่องเป็นลูกแมวน้อยที่หลงทางกับแม่ จนได้มาอยู่กับครอบครัวยามาดะ ที่มีพ่อแม่และลูกชาย แอบเลี้ยงเจ้าจี้ในอพาร์ตเมนต์ แม้ว่าอาคารแห่งนี้ไม่อนุญาตให้ใครเลี้ยงสัตว์
พ่อของครอบครัวนี้เหมือนผู้ชายชาวญี่ปุ่นทั่วไป คือเป็นคนเดียวที่ทำงานเลี้ยงครอบครัว โดยทำงานด้านกราฟิกดีไซน์ ส่วนแม่ทำงานบ้านและดูแลลูก
 จี้มีนิสัยชอบกิน นอน และเล่นกับโยเฮ ลูกชายวัย 4 ขวบของครอบครัว มักกลัวฟ้าผ่า สุนัข หรือแมวตัวใหญ่กว่า
Chi's Sweet Home
สำหรับการ์ตูนจี้ที่ฉายทางโทรทัศน์ ผลิตโดยสตูดิโอ แมดเฮาส์ นิวซีแลนด์ กำกับฯโดย มิตสึยูกิ มาซาฮาระ เริ่มออกอากาศในญี่ปุ่นวันที่ 30 มีนาคม 2552 ทางสถานีโทรทัศน์โตเกียวและสถานีโทรทัศน์โอซาก้า เป็นตอนสั้นๆ เพียงตอนละ 3 นาที เสียงของจี้พากย์โดย ซาโตมิ โคโรงิ
ในงานเทศกาลศิลปะการ์ตูนโตรอนโต ประเทศแคนาดา (Toronto Comics Art Festival) นักเขียนหญิงโคนามิไปร่วมงานพบปะแฟนการ์ตูน โดยเล่าถึงช่วงเหตุการณ์มหันตภัยแผ่นดินไหว-สึนามิที่ภูมิภาคโตโฮกุของญี่ปุ่น ปี 2554 ว่า ในวันเกิดเหตุต้องหยุดเขียน Chi"s Sweet Home ตอนที่ 8 ไปหนึ่งวัน แต่วันต่อมาก็ต้องเขียนให้เสร็จ
"ดิฉันเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง บางครั้งรู้สึกว่าทำอะไร ไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยก็มีแมวจี้ ถ้าจี้ทำอะไรบางอย่างได้ หรือจี้ช่วยบรรเทาอะไรได้บ้าง นั่นจะทำให้ดิฉันดีใจมาก" เป็น คำพูดของนักเขียนหญิง ซึ่งในงานวันนั้นมีการประมูลของเพื่อนำเงินไปช่วยผู้ประสบภัยด้วย
ที่มา นสพ.ข่าวสด

Chi"s Sweet Home


เหมียวจี้

chi-cat

Chi's Sweet Home

การลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี

        การลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี

        สาว ๆ ทุกคนย่อมอยากมีรูปร่างผอมเพรียว เพื่อให้ตัวเองดูสวยมั่นใจไม่ว่าจะใส่ชุดไหนด้วยกันทั้งนั้น แต่ถึงอย่างนั้น ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำได้อย่างที่ใจคิด เพราะการมีหุ่นสวยนั้น ต้องแลกกับการดูแลเอาใจใส่สุขภาพของตัวเองอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี ซึ่งอาจไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้วิธีการไดเอตอย่างถูกต้องเพื่อรูปร่างที่ดี
     
              วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวมเคล็ดลับการไดเอตดี ๆ มาฝาก เพื่อเอาใจสาว ๆ โดยเฉพาะ ลองไปอ่านกันดูเลยค่ะ
     
               1. การอดอาหารเป็นวิธีที่ไม่สามารถทำให้ผอมในระยะยาวได้ แถมยังเป็นอันตรายกับสุขภาพอีกด้วย เพราะฉะนั้นควรทานอาหารให้ครบทุกมื้อ
     
               2. เน้นการรับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยไฟเบอร์ เพราะช่วยให้อิ่มท้องและไม่ทำให้น้ำหนักของคุณพุ่งพรวด 
     
               3. ทานอาหารมื้อเล็ก ๆ 5 มื้อต่อวัน คุณจะได้เลิกกินขนมจุบจิบระหว่างมื้อ และได้อาหารพอดีกับความต้องการของร่างกาย


    ผลไม้
     

               4. ทานผักหรือผลไม้ทุกวัน จะได้ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร
     
               5. เลิกทานน้ำอัดลม เพราะเป็นแหล่งรวมน้ำตาล ที่ทำให้รูปร่างของคุณอวบอ้วนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
     
               6. เลี่ยงอาหารขยะ ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพและเต็มไปด้วยไขมัน
     
               7. อยู่กับเพื่อน ๆ ที่สนับสนุนให้คุณทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แทนที่จะเป็นกลุ่มเพื่อนที่ชวนคุณทานอาหารขยะ
     
               8. กาแฟใส่นมหรือเครื่องดื่มจำพวกค็อกเทลนั้น ทำให้น้ำหนักของคุณเพิ่มได้มากพอ ๆ กับอาหารสักมื้อเลยทีเดียว ดังนั้นควรระมัดระวังในการเลือกเครื่องดื่มระหว่างมื้อด้วย
     

    ออกกำลังกาย

               9. แม้คุณจะเกลียดการออกกำลังกาย แต่ก็ควรบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายทุกวัน เพื่อให้รูปร่างกระชับสมส่วน
     
               10. เครื่องชั่งน้ำหนักไม่ใช่ตัวบอกผลที่ถูกต้อง 100% เสมอไป เพราะบางครั้ง คุณอาจมีน้ำหนักเท่าเดิม แต่มีรูปร่างที่กระชับขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงไขมันบางส่วนเป็นกล้ามเนื้อได้บ้างแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้น ให้วัดว่าคุณผอมลงแค่ไหน จากไซส์เสื้อผ้าที่ใส่ จะแม่นยำกว่าการชั่งน้ำหนักมาก
     
               11. จำไว้ว่าความเสียดายเป็นบ่อเกิดของความอ้วน หากคุณรู้สึกอิ่มมากแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทานให้หมดจานก็ได้
     
               12. การงดคาร์โบรไฮเดรตจากอาหารจำพวกแป้งไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องเสมอไป คุณควรทานอาหารพวกนี้น้อย ๆ แต่ก็ควรทานทุกมื้อ เพราะไม่ว่าอย่างไร ร่างกายของคุณก็ยังต้องการสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่
     

    ทำอาหาร

               13. หันมาทำอาหารทานเอง เพื่อจะได้กะปริมาณได้พอดี แล้วจะได้ดัดแปลงใช้แต่ส่วนผสมแบบที่เหมาะกับการลดความอ้วน
     
               14. หาคนไดเอทเป็นเพื่อน อาจเป็นคนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือแฟนของคุณก็ได้ จะทำให้คุณรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น แถมยังมีคนคอยเตือนให้คุณทำตามแผนไดเอทตลอดเวลาอีกด้วย
     
               15. สร้างแรงบันดาลใจด้วยการคิดไว้ว่าคุณไดเอทครั้งนี้เพื่ออะไร เช่นเพื่อให้สามารถใส่ชุดสวยตัวเดิมเมื่อหลายปีก่อนได้อีกครั้ง หรือเพื่อเป็นแบบอย่างในการมีสุขภาพที่ดีแก่ครอบครัว
     
               16. เวลาไปจ่ายตลาด ควรเดินในโซนของสดเพื่อซื้อกลับไปทานอาหารทานเองเท่านั้น อย่าเดินไปในบริเวณอาหารขยะหรืออาหารสำเร็จรูปให้คุณรู้สึกหวั่นไหวเด็ดขาด
     

    เสื้อผ้า

               17. ให้รางวัลความพยายามของตัวเองเพื่อให้คุณรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น ด้วยการซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่หรือของอื่น ๆ ที่คุณอยากได้ แต่อย่าให้รางวัลตัวเองเป็นอาหารมื้อใหญ่เด็ดขาด เพราะจะเป็นการลงโทษตัวเอง ด้วยการทำลายความพยายามในการไดเอทที่ผ่านมาเสียมากกว่า
     
               18. หันมาทานขนมปังโฮลเกรนซึ่งมีไฟเบอร์มากกว่าแทนขนมปังขาว จะช่วยในการลดน้ำหนักมากขึ้น
     
               19. เลี่ยงการใช้ยาลดความอ้วน เพราะอาจเป็นอันตรายถึงสุขภาพ แถมยังไม่สามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ในระยะยาวอีกด้วย
     
               20. ลองหาเครื่องมือเช็คแคลอรี่ที่คุณทานและที่คุณเผาผลาญต่อวันมาใช้ ผ่านการโหลดแอพพลิเคชั่นหรือเข้าอินเทอร์เน็ต เพื่อคำนวณความสมดุลในการใช้พลังงานต่อวันของคุณดู จะได้ทานอาหารและออกกำลังกายได้เหมาะสมมากขึ้น 

              อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณอายุมากขึ้น จะทำให้น้ำหนักเริ่มอยู่ตัวมากขึ้น จนอาจทำให้ลดน้ำหนักได้ช้าลงด้วย เพราะฉะนั้น อย่าเครียดหรือท้อจนล้มเลิกการไดเอต แต่ควรอดทนรออย่างใจเย็นจะดีกว่านะคะ

วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ประจำเดือน และการออกกำลังกาย


ประจำเดือน และการออกกำลังกาย


ปัญหาที่หลายๆคนถามถึง แต่คำตอบก็ไม่เคยแน่นอนซะที ตกลงว่าจะออกกำลังกายดีหรือไม่ดีนะ จะมีผลอะไรกับร่างกายรึเปล่า ลองอ่านบทความนี้ดูค่ะ

การมีประจำเดือน อาจมีผลกระทบต่ออารมณ์ของสาวๆ แต่ความจริงแล้ว มันไม่ได้เป็นปัญหากับตารางการออกกำลังกายของเราเลย จริงอยู่ที่นักกีฬาบางคนอาจจะต้องทานยาเลื่อนประจำเดือนเพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคกับตารางการซ้อมและการแข่งกีฬาของพวกเค้า แต่เราจำเป็นขนาดนั้นมั้ยที่จะต้องทานยาพวกนั้นเพื่อที่จะยังสามารถออกกำลังกายได้ดีเหมือนเดิม แล้วการออกกำลังกายขณะที่มีประจำเดือนนั้นมันมีผลเสียค้างเคียงหรือมันแค่เพราะความไม่สะดวกในการออกกำลังกายกันแน่ นักวิจัยเลยทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อดูว่าจริงๆแล้วประจำเดือนนั้นมีผลต่อการออกกำลังกายมากแค่ไหน

>> การมีประจำเดือน ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพในการออกกำลังกายลดน้อยลง<<
นักกีฬาแถวหน้าไม่หยุดออกกำลังกายเพียงเพราะมีประจำเดือน แล้วคุณก็ไม่จำเป็นต้องหยุดเช่ยนเดียวกัน นักวิจัยชาวตุรกีทำการวิจัยกับนักกีฬาจำนวน 241 คนเกี่ยวกับผลกระทบในการแข่งขันและประจำเดือน 3 ใน 4 คนกล่าวว่าเค้ารู้สึกแย่ช่วงก่อนมีประจำเดือน 63% บอกว่าปวดประจำเดือนน้อยลงหลังจากการซ้อมและการแข่งขัน 62.2% กล่าวว่าพวกเค้ามั่นใจว่าสามารถออกกำลังกายได้เหมือนปกติเทียบกับช่วงปกติของเดือน การศึกษาของมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียตะวันตกกล่าวว่า นักวิ่งหญิง สามารถแข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างไม่มีความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นประจำเดือนหรือไม่ ข้อควรระวังอย่างเดียวในการออกกำลังกายระหว่างมีประจำเดือนก็คงจะเป็นอาการข้างเคียงที่รุนแรง เช่นปวดท้องมากๆ หรือการที่เลือดออกมากๆ จากการวิจัยจากประเทศฝรั่งเศสกล่าวว่านักกีฬากระโดดไกลมีประสิทธิภาพดรอปลงในช่วงเป็นประจำเดือน

การออกกำลังกายช่วงมีประจำเดือนอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นกับหัวเข้าได้ จากผลการวิจัยของชาวออสเตรเลียในการศึกษามัดกล้ามเนื้อของผู้หญิงที่มีประจำเดือนขณะวิ่งบนลู่ เค้าเห็นความแตกต่างในการเคลื่อนตัวของหัวเข้าขณะวิ่งช่วงมีประจำเดือนว่าแตกต่างจากช่วงตกไข่ พบว่าการทำงานของหัวเข่าด้อยลงในช่วงมีประจำเดือน คือการที่หัวเข้าบิดเข้าด้านในขณะวิ่งทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่ถูกใช้งานคือกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าเท่านั้น แทนที่จะเป็นแฮมสตริงและต้นขาด้านหลัง ซึ่งข่าวร้ายก็คือการทำงานของกล้ามเนื้อที่แปลกไประหว่างมีประจำเดือนจะเป็นสาเหตุแห่งการบาดเจ็บ แต่ก็ยังมีข่าวดีที่เราสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดการบาดเจ็บลงได้ถึงครึ่งหนึ่ง ในเมื่อเรารู้แล้วว่าการหัวเข่าอาจบาดเจ็บจึงสอนท่าที่ถูกต้องให้กับนักกีฬาเพื่อลดแรงกระแทกที่หัวเข่าและลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายโดยใช้ขาเดียวในการบาลานส์ หรือ การกระโดดแบบ plyometric ซึ่งเป็นการโฟกัสที่ฟอร์มของท่ามากกว่าจำนวนครั้ง พร้อมกับการยืดเส้นแฮมสตริงและต้นขาด้านหลัง หลังจากออกกำลังกายอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 15-20 นาที

>>จริงๆแล้วการออกกำลังกายสามารถลดอาการข้างเคียงของประจำเดือนได้<<
จากการวิจัยของวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำให้ออกกำลังกายแบบแอโรบิกเพื่อช่วยลดอาการก่อนเป็นประจำเดือน เราคงไม่ต้องรอให้นักวิทยาศาสตร์ที่ไหนมาบอกว่าให้ไปออกกำลังกาย เพียงแค่เดินเข้ายิมเลยขณะมี PMS แล้วอารมณ์คุณก็จะดีขึ้น

ดังนั้น ประจำเดือนไม่ได้เป็นเหตุที่ทำให้คุณต้องหยุดออกกำลังกาย นอกจากว่าคุณจะปวดท้องสุดๆหรือเลือดออกเยอะมากเกินไป ถ้าคุณตั้งใจและรักการออกกำลังกายจริงๆ ไม่ว่าอะไร ก็ไม่สามารถหยุดคุณได้ ยกตัวอย่างตัวเจสเอง ประจำเดือนมาวันแรก นัดเทรนเนอร์ ฮีจัดเต็มให้ต่อยมวย เตะกาดสูง ใช้แรงช่วงท้องเยอะมาก ปวดหน่วงๆนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ฟอร์มตก แต่ถ้าใครปวดมากๆก็พักเถอะค่ะ ^^ เอาเท่าที่ไหว อย่าฝืนตัวเองมากเกินไป แล้วก็ดื่มน้ำเยอะกันๆนะคะ

แหล่งข้อมูลจาก http://www.shape.com/lifestyle/mind-and-body/exercise-and-your-menstrual-cycle-what-your-period-means-your-workout?_ami_s
Be fit for life
https://www.facebook.com/Jescunyclub









วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

จัดโต๊ะอาหารถูกหลักเสริมฮวงจุ้ยบ้าน

จัดโต๊ะอาหารถูกหลักเสริมฮวงจุ้ยบ้าน 


ตำแหน่งในการจัดวางโต๊ะอาหาร

ตำแหน่งของการจัดวางโต๊ะอาหารนับว่าสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิ่งอื่นๆภายในบ้าน โต๊ะอาหารที่ถูกหลักฮวงจุ้ยจึงควรอยู่ไม่ไกลจากห้องครัวหรือมุมทำครัวมากนัก ความใกล้ไกลของโต๊ะอาหารจะส่งผลต่อความเป็นอยู่ของครอบครัว หากเราวางให้โต๊ะอาหารและห้องครัวอยู่ใกล้หรือในบริเวณเดียวกัน จะส่งผลให้ครอบครัวอุดมสมบูรณ์ สามี-ภรรยาก็จะรักใคร่สามัคคีกันดี ด้านการงานการเงินก็ไร้ปัญหา
ส่วนตำแหน่งที่ควรหลีกเลี่ยงคือ เมื่อมองจากประตูบ้านหรือเปิดประตูเข้ามาในบ้าน ไม่ควรที่จะเห็นโต๊ะกินข้าวอย่างชัดเจน หากปรับเปลี่ยนหรือย้ายที่ไม่ได้ ควรหาฉากหรือตู้โชว์มากั้น เพราะสิ่งนี้ส่งผลถึงการเงินของคุณที่อาจจะถูกหยิบยืมได้ง่ายจากญาติพี่น้องหรือเพื่อนสนิท แถมคุณก็ยังไม่กลัาปฏิเสธอีกด้วย




ลักษณะของโต๊ะอาหาร
โต๊ะอาหารแต่ละแบบก็มีทิศของการจัดวางที่แตกต่างกันดังต่อไปนี้
โต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ถือเป็นธาติไม้ ควรถูกจัดวางในตำแหน่งของทิศใต้ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จำเป็นต้องวางในตำแหน่งทิศตะวันตกเฉียงใต้หรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งถือเป็นธาตุดิน ให้แก้ไขโดยการใช้ผ้าปูโต๊ะสีแดง

โต๊ะสี่เหลี่ยมจัตุรัส ถือเป็นธาตุดิน ควรจัดวางในตำแหน่งของทิศตะวันตกหรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จำเป็นต้องวางในตำแหน่งทิศเหนือ ซึ่งถือเป็นธาตุน้ำ ให้แก้ไขโดยการใช้ผ้าปูโต๊ะสีขาว
โต๊ะกลม ถือเป็นธาตุทอง ควรจัดวางในตำแหน่งของทิศเหนือ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จำเป็นต้องวางในตำแหน่งทิศใต้ซึ่งถือเป็นธาตุไฟ ให้แก้ไขโดยการใช้ผ้าปูโต๊ะสีเหลืองหรือสีน้ำตาล
ของตกแต่งบนโต๊ะอาหาร
ข้าวสารและส้ม สองสิ่งนี้จะช่วยเสริมให้ครอบครัวเกิดความอุดมสมบูรณ์ทั้งในด้านอาหารการกินและการเงินของครอบครัว สำหรับข้าวสารให้ใช้ถ้วยขนาดที่เหมาะสมกับโต๊ะอาหารและวางบนโต๊ะแล้วไม่เกะกะมากนัก ใส่ข้าวสารให้พูนๆด้วย และวางประดับไว้บนโต๊ะอาหาร ส่วนส้มให้หาตะกร้าขนาดพอเหมาะใส่ส้มตั้งไว้บนโต๊ะอาหาร ซึ่งสามารถนำมารับประทานได้ หากหมดตะกร้าก็ให้หาซื้อมาเติมให้เต็มอยู่เสมอบริเวณโดยรอบของโต๊ะอาหาร
บริเวณโต๊ะอาหารควรประกอบไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ดูโปร่งไม่ทึบจนเกินไป นอกจากจะทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดในเวลานั่งทางอาหารแล้ว ยังช่วยให้อากาศถ่ายเทและทำความสะอาดโต๊ะได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
หลีกเลี่ยงการนั่งบริเวณมุมโต๊ะอาหารหากโต๊ะอาหารของคุณเป็นรูปแบบสี่เหลี่ยม
หลีกเลี่ยงการวางโต๊ะอาหารไว้ใต้คาน เพราะคานจะเป็นสัญลักษณ์แห่งการกดทับศรีษะ เมื่อนั่งทานอาหารใต้คานจะรู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับ อึดอัด ถึงขั้นทำให้ทานอาหารไม่ค่อยลงก็เป็นได้
ไม่ควรวางเครื่องปรับอากาศให้อยู่เหนือบริเวณที่นั่ง เพราะเครื่องปรับอากาศเปรียบได้กับคาน หากต้องนั่งใต้เครื่องปรับอากาศระหว่างทานข้าวก็จะรู้สึกไม่มีความสุขในระหว่างทานข้าวเช่นกัน










วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

วัฒนธรรมการกินชาวฝรั่งเศส

  • วัฒนธรรมการกินชาวฝรั่งเศส

ว่าด้วย เรื่องอาหารการกิน(กาสโทรโนมิก มีล) ยูเนสโก ได้หมายถึง จารีตประเพณีที่ได้ออกแบบมาของสังคม เพื่อ การเฉลิมฉลองช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของบุคคลและกลุ่ม ผ่านศิลปะการกินและการดื่ม ที่ดี ใช้เวลาร่วมกันและเสริมสร้างมิตรภาพ ระหว่างคอร์สอาหารที่หลากหลาย มื้อแห่งความสุข ตั้งแต่เสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนอาหาร, อาหารเรียกน้ำย่อย, อาหารจานหลัก, สลัด, ชีส, ขนมและไวน์ นั่นคือพิธีการรับประทานทั้งหมด ,ความลงตัวของอาหาร และไวน์ ลำดับการรับประทานอาหาร การจัดโต๊ะ การพูดคุย ซึ่งอาหารการกินแบบฝรั่งเศสนี้ เป็นสิ่งที่ยูเนสโก เล็งเห็นการอนุรักษ์เป็นมรดกทางวัฒนธรรม
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น สำหรับเรา ที่อาศัย ในจังหวัดเชียงใหม่ มี ร้านอาหารฝรั่งเศส ที่ตกแต่งหรูหรา นี่คงเป็นสาเหตุ ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าอาหารฝรั่งเศสเข้าถึงยาก ซึ่งทั้งคุณมาร์โค จากร้าน Chez Marco และคุณ ชอง จาก La Terrasse แสดงแง่คิดอีกมุมมอง ดูจากเมนูของพวกเขา สนนว่ามีราคาที่ความเหมาะสมและบ่อยๆบางรายการยังถูกกว่าอาหารอิตาเลี่ยน อาหารฝรั่งเศสใครๆก็รับประทานได้ และเงิน ไม่ใช่ปัญหา
ในความเป็นจริง ร้านอาหารฝรั่งเศสก็ มีอาหารอื่นๆไว้บริการเหมือนร้านทั่วๆไปเช่น สเต็ก เมนูทะเล สลัด ฯลฯ อะไร คืออาหารฝรั่งเศสแท้ บริบทของการรับประทานอาหารอย่างที่องค์กรยูเนสโกชี้ให้เห็นก็คือ การผสมผสานของอาหารแต่ละจาน และเครื่องดื่ม คือจุดสำคัญ
ดังนั้นอาหารฝรั่งเศสที่สมบูรณ์แบบประกอบด้วย?คุณ ชอง จาก La Terrasse ได้ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นถึงนิสัยการรับประทานอาหารแบบฝรั่งเศส
โดยทั่วไปจะเริ่มด้วย การดื่มเแอลกอฮอล์ก่อนอาหาร ตามด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยเช่นซุปผักและเนื้อสัตว์บด ปาเต (มีส่วนผสมของเนื้อ และไขมัน) หลังจากนั้นมาถึงอาหารจานหลักได้แก่ ปลาหรือเนื้อ หรือทั้งสองอย่างเสิร์ฟพร้อมสลัดผักเขียว อาหารจานหลักมีความหลากหลายและซับซ้อน ปรุงแต่ง โดยเชฟ สองเมนูที่คนนิยม คือ เบอฟฺ บัวร์กิงอน และ ค็อก โอ เวอน สตูว์เนื้อ และไก่ต้มในไวน์แดงส่วนเครื่องเคียงที่ต้องมีคือ มันฝรั่งบด หรือผัด และ ต้องเสิร์ฟขนมปังตลอด หลังจากอาหารจานหลักสิ่งที่ขาดไม่ได้คือชีส มีรายงานมาว่าฝรั่งเศสมีชีสมากกว่า 1000 ชนิด แต่ที่ได้รับความนิยม คือ คะมอมแบร์ อาจตามด้วยขนมหวาน ท้ายสุดนี้ ที่จะต้องกล่าวถึง เครืองดื่มที่คนฝรั่งเศสดื่มเวลารับประทานอาหาร คือน้ำเปล่า และไวน์เท่านั้น ไวน์ช่วยให้รับรู้รสชาดอาหารได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีหลากหลายชนิด แต่เราสามารถเลือกดื่ม เฮาส์ไวน์ถือว่ารสชาดดีทีเดียว
เรื่อง ของอาหารฝรั่งเศสทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ เราเกือบลืมสาธยายลักษณะอันโดดเด่นของการรับประทานอาหารฝรั่งเศส คงเป็นในเรื่องความโรแมนติก ซึ่งคุณอาจต้องเก็บไว้ในใจเพื่อเป็นทางเลือก ในการมองหาสถานที่รับประทานอาหารในวันวาเลนไทน์ที่ใกล้จะถึง

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

จำนวนดอกกุหลาบและความหมายดีๆที่มอบให้


จำนวนดอกกุหลาบและความหมายดีๆที่มอบให้


1 ดอก หมายถึง ความรักแบบ รับแรกพบ
2 ดอก หมายถึงการแสดงความยินดี
3 ดอก แทนคำบอกรักว่า ฉันรักเธอ
7 ดอก แทนคำพูดที่ว่า เธอทำให้ฉันหลงเสน่ห์
9 ดอก แทนความหมายที่ว่า ทั้งสองคนจะรักกันตลอดไป
10 ดอก แทนความหมายว่า เธอเป็นคนที่ดีเลิศที่สุด
11 ดอก แทนความหมายว่า การเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของฉัน
12 ดอก แทนความหมายว่า การขอให้เธอเป็นคู่ฉัน
13 ดอก แทนความหมายว่า ความเป็นเพื่อนแท้เสมอ (ซึ่งอีกนัยหนึ่งคือ การบอกปฏิเสธด้วยความรักอย่างเพื่อน)
15 ดอก แทนความหมายว่า แทนความรู้สึกเสียใจจริง
20 ดอก แทนความหมายว่า ความจริงใจต่อกัน
21 ดอก แทนความหมายว่า ถึงการมอบชีวิตอุทิศให้
36 ดอก แทนความหมายว่า ความทรงจำที่แสนหวานที่ยังมีต่อกัน
40 ดอก แทนความหมายว่า ยืนยันว่าความรักเป็นรักแท้
99 ดอก แทนคำพูดที่ว่า ฉันรักเธอจนวันตาย
100 ดอก แทนคำพูดที่ว่า ฉันอุทิศชีวิตนี้เพื่อเธอ
101 ดอก แทนคำพูดที่ว่า ฉันมีเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
108 ดอก แทนความหมายถึงการขอแต่งงานแบบอ้อมๆ ที่ผู้ให้ไม่กล้าพูด
999 ดอก แทนคำพูดที่ว่า ฉันจะรักเธอจนวินาทีสุดท้าย
1,000 ดอก แทนคำพูดที่ว่า ฉันจะรักเธอจนวันตาย
9,999 ดอก แทนคำพูดที่ว่า ฉันจะรักเธอชั่วนิรันดร



สีและความหมายดีๆ

กุหลาบแดง (Red Rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า “ฉันรักเธอ”
กุหลาบขาว (White Rose) : กุหลาบขาวแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์
กุหลาบชมพู (Pink Rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน
กุหลาบเหลือง (Yellow Rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส แทนความรักแบบเพื่อน




วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โทรศัพท์ควรระวัง


โทรศัพท์มือถืออันตราย


ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือบ่อยๆ และเป็นประจำ หากคุณสังเกตพบว่าตัวเองมักจะรู้สึกปวดศีรษะโดยไม่ทราบสาเหตุ กินยาแก้ปวดแล้วอาการก็ไม่ทุเลา ให้หมอตรวจร่างกายก็พบว่าปกติดีคุณทดลองหยุดใช้โทรศัพท์ดูสักพักสิครับ แล้วสังเกตตัวเองดูใหม่ว่ายังมีอาการปวดศีรษะอีกหรือเปล่า

ทำไมการใช้โทรศัพท์มือถือจึงทำให้มีอาการปวดศีรษะได้?

หลักการรับ-ส่งสัญญาณของโทรศัพท์มือถือ คือ การแปลงเสียงพูดให้เป็นกระแสไฟฟ้าก่อนส่งออกไปในอากาศโดยอาศัยคลื่นพา เช่น คลื่นไมโครเวฟ แล้วไปตามสถานีเครือข่ายที่มีทั่วประเทศไทยโดยผ่านทางเสาอากาศ

ปกติเรานำคลื่นไมโครเวฟมาใช้ในการอุ่นอาหาร เนื่องจากคลื่นถูกดูดซึมจากส่วนประกอบที่มีน้ำได้ดี และถ้ามีความเข้มสูงพอจะเกิดเป็นความร้อนทำให้อาหารนั้นร้อนขึ้นหรือสุกได้ ถึงแม้คลื่นไมโครเวฟที่กระจายอยู่ในอากาศยังไม่มีความเข้มถึงขีดอันตรายที่จะเกิดความร้อนได้ แต่เสาอากาศของโทรศัพท์มือถือได้ดึงดูดคลื่นไมโครเวฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ทำให้บริเวณที่อยู่ใกล้เสาอากาศ คือ ศีรษะจะได้รับคลื่นไมโครเวฟในปริมาณมากจนอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดศีรษะได้

ดังนั้นผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือจำเป็นต้องหยุดใช้เครื่องชั่วคราวเมื่อมีอาการปวดศีรษะ และเปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์ที่บ้านหรือสำนักงานแทน มิฉะนั้นสมองอาจค่อยๆกระทบกระเทือนจนไม่ปลอดภัย ในรายที่ยังไม่ปวดศีรษะควรติดตั้งเสาอากาศโทรศัพท์ให้สูงเลยศีรษะไป อาจช่วยลดอันตรายของคลื่นไมโครเวฟได้บ้าง

นอกจากอาการปวดศีรษะ มีผลเสียอื่นๆอีกหรือไม่ ? ?

ข้อเสียอื่นๆสำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์เป็นประจำ คือ อาจมีอาการหูตึง เนื่องจากเสียงโทรศัพท์ไม่ชัดเจน มีเสียงรบกวนอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่ได้ใช้โทรศัพท์ในตำแหน่งที่รับส่งคลื่นได้สะดวก บุคลิกภาพของผู้ใช้โทรศัพท์ต้องเสียไป เนื่องจากต้องพะวักพะวงกับการหาตำแหน่งที่รับฟังได้ชัดเจนและยังต้องตะโกนพูดอยู่คนเดียว

การโทร.ไม่ติดหรือหลุดบ่อยทำให้อารมณ์เสีย หงุดหงิด สุขภาพจิตเสื่อมลง กล้ามเนื้อคอ หัวไหล่มักจะเกร็งเนื่องจากต้องถือโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา และบางครั้งยังต้องพยายามเอียงคอ และใช้มือดันโทรศัพท์ให้แนบติดกับใบหูอยู่ตลอดเวลา

การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อคอเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปวดศีรษะเพราะเมื่อกล้ามเนื้อหดตัวตลอดเวลา หลอดเลือดจะส่งเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ การแก้ไขอาจต้องใช้โทรศัพท์ที่มีขนาดเบา อย่าคุยโทรศัพท์นานเกินควร และถ้าอยู่ในรถอาจผ่านเครื่องขยายเสียง และใช้ไมโครโฟนในการสนทนา ซึ่งในกรณีนี้นอกจากจะไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังลดอุบัติเหตุบนท้องถนนลงได้ หรือลดคำแช่งด่าจากผู้ที่ขับรถตามมาด้วย เพราะมัวแต่คุยโทรศัพท์จนทำให้รถติดขัด

ข้อเสียของโทรศัพท์มือถือที่ทุกคนมักไม่ได้ตระหนักอีกประการหนึ่งคือ ถ่านไฟที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือ ประกอบด้วยสารอันตรายหลายชนิด เมื่อนำไปทิ้งโดยไม่มีการจัดการที่ถูกต้อง ทำให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม และเกิดสภาวะเป็นพิษต่อผู้ที่อาศัยอยู่รอบๆ อันตรายจากพิษตะกั่ว หรือสารอันตรายที่มีกัมมันตภาพรังสี เช่น แคดเมี่ยม ทำให้เส้นประสาทถูกทำลาย เกิดอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ เป็นอัมพาต และเป็นโรคอื่นๆอีกหลายชนิด